เพื่อนตำรวจ เจ๊า การบินไทย-บ้านบึง สุดมัน!!!!

ศึกลูกหนัง ดิวิชั่น 1 นัดตกค้าง การบินไทย-บ้านบึง เปิดรังเจ๊า “สุภาพบุรุษโล่ห์เงิน” เพื่อนตำรวจ แบบจืดชื่น 0-0 วีระศักดิ์ เตี๊ยะเหมือน เฮดโค้ชการบินไทย ชี้เป็นเกมที่ใสสะอาด แต่เสียดายที่เก็บชัยไม่ได้ ด้าน ชัยยง ขำเปี่ยม กุนซือโปลิศแมน รับไม่ได้ซ้อมกันจริงจังมา 3 วันแล้ว ทำให้ดูเนือยๆ ไปนิด แต่สภาพทีมแบบนี้เก็บได้ 1 แต้มถือว่าไม่เสียหาย

 การแข่งขันฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 นัดตกค้าง เมื่อวันที่ 28 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยเลื่อนมาจากวันที่ 26 ก.ย 52
    
การบินไทย-บ้านบึง 0-0 เพื่อนตำรวจ
ที่สนามเทศบาลหนองปรือ การบินไทย-บ้านบึง ทีมอันดับ 14 ของตาราง เปิดบ้านรับการมาเยือนของ “สุภาพบุรุษโล่ห์เงิน” เพื่อนตำรวจ ทีมจ่าฝูงของตาราง โดยสถานการณ์ของทั้งสองทีมต่างกันสุดขั้ว เจ้าถิ่นต้องการ 3 แต้ม เพราะกำลังหนีตายสุดชีวิต ด้านทีมเยือนเพื่อนตำรวจ ลอยลำขึ้นไทยลีกไปแน่นอนแล้ว เกมนี้เจ้าถิ่นส่ง ภูริทัต จาริการนนท์ และ พรพจน์ อมรพรประเสริฐ ลงทำเกม ด้านทีมเยือนมี มานิตย์ น้อยเวช กับ สุรชาติ สารีพิมพ์ ล่าตาข่าย
 
เริ่มเกม ทั้งสองทีมเปิดเกมรุกเข้าใส่กันทันที โดยเกมช่วงแรกเป็นทางด้านของทีมเยือน ที่ครองบอลได้มากกว่า ผ่านไปครึ่งชั่วโมง ทั้งสองทีมยังหาโอกาสทำประตูกันไม่ค่อยได้มากนัก น.32 นวพล ใจมั่น นักเตะเจ้าถิ่นได้โอกาสสับไกลเต็มข้อระยะกว่า 35 หลา แต่ จักรพงษ์ เรณุมาศ ประตูตำรวจพุ่งปัดไว้ได้หวุดหวิด น.37 ตำรวจได้โอกาสโหม่งจ่อๆ ระยะ 5 หลาของ เอกอาทิตย์ สมจิตร แต่กองหลังการบินไทย-บ้านบึง ยังไม่พลาด เคลียร์ทิ้งจากเส้นได้ทัน หมดครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 0-0
 
ครึ่งหลังเริ่มมาได้ไม่ถึงนาที การบินไทย-บ้านบึง เกือบได้ประตูขึ้นนำอย่างที่สุด เมื่อ ภูริทัต จาริการนนท์ จ่ายบอลทะลุช่องให้ นพนันท์ คชพลายุกพ์ หลุดเดี่ยวเข้าไปจิ้มบอลผ่านผู้รักษาประตูตำรวจไปแล้ว แต่ดันเฉี่ยวเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย
 
หลังจากนั้น ทั้งสองทีมยังคงเปิดเกมบุกแลกหมัดกันต่อ น.79 สุรชาติ สารีพิมพ์ ทำชิ่งกับ มานิตย์ น้อยเวช ก่อนจะหลุดไปซัดด้วยขวา แต่บอลไปตรงตัวผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ช่วงท้ายเกมเพื่อนตำรวจโหมบุกอย่างหนัก หวังทำประตูชัยให้ได้ แต่ก็ไม่สำเร็จ จบเกมเสมอกันไป 0-0

ที่มา www.siamsport.co.th

เพื่อนตำรวจ VS ทหารอากาศ

 

ขุนพล “สุภาพบุรุษโล่ห์เงิน” เพื่อนตำรวจ คืนฟอร์มเก่ง เปิกรังสอย “ลูกทัพฟ้า” ทหารอากาศ แบบสนุก 2-0 สุรชาติ สารีพิมพ์ ฮีโร่กดคนเดียว 2 เม็ด ช่วยพาทีมลอยลำขึ้นชั้นไปลุยศึก “ไทยพรีเมียร์ลีก” เป็นทีมแรกได้อย่างเป็นทางการ ด้าน “กระต่ายหิน” จันทบุรี ฮึดไล่เจ๊า การบินไทยฯ ท้ายเกม 2-2 ส่วน “ขุนแผน” สุพรรณบุรี เสมอกับ “สิงห์นักบิด” ไทยฮอนด้า แบบไร้สกอร์ 0-0 ศึกลูกหนังลีก ดิวิชั่น 1 เมื่อวันที่ 19 ก.ย. ที่ผ่านมา

 การแข่งขันฟุตบอลลีก ดิวิชั่น 1 เมื่อวันที่ 19 กันยายน ที่ผ่านมา

เพื่อนตำรวจ 2-0 ทหารอากาศ
ที่สนามกีฬาคลองจั่น ทีมจ่าฝูง “สุภาพบุรุษโล่ห์เงิน” เพื่อนตำรวจ เปิดบ้านรับการมาเยือนของ “ลูกทัพฟ้า” ทหารอากาศ ทีมอันดับ 6 ของตาราง เกมนี้กุนซือใหญ่ ฝั่งเจ้าบ้าน ชัยยง ขำเปี่ยม ส่งผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนาม นำทัพโดย กฤษฎี ประกอบของ, ยุทธนา ไชยแก้ว และ มานิต น้อยเวช ซึ่งหากพวกเขาคว้าชัยชนะในเกมนี้ได้ ก็จะได้สิทธิ์เลื่อนชั้นสู่ไทยพรีเมียร์ลีกซีซั่นหน้าอย่างเป็นทางการทันที
 
ขณะที่ “โค้ชเนี้ยว” ส่งเสริม มาเพิ่ม เฮดโค้ชทีมเยือนทหารอากาศ ไม่สามารถใช้งาน ปุณณวัตติ์ อินทรโพธิ์ กองกลางตัวรับที่ติดโทษแบนเพียงแค่รายเดียว ส่วนตัวหลักรายอื่นๆ ยังอยู่กันครบทั้ง อนุวัฒน์ อินยิน, วัชรพงษ์ จันทร์งาม, ขวัญ ไวทยาชีวะ และ รพีพัชร นาคเพ็ชร
 
เริ่มครึ่งแรก เปิดเกมมาได้แค่ 20 วินาที เพื่อนตำรวจ ก็เจาะประตูทีมเยือนได้อย่างรวดเร็ว จากการตะบันเต็มข้อของ สุรชาติ สารีพิมพ์ บริเวณเส้นหัวกะโหลกเข้าไปอย่างสุดสวยให้เจ้าถิ่นขึ้นนำ 1-0 ตั้งแต่ไก่ยังไม่โห่
 
เจ้าถิ่นหลังจากที่ขึ้นนำเร็ว เหมือนจะได้ใจ เดินหน้าบุกอย่างหนัก โดยอาศัยการเล่นบอลเร็ว น.8 ก็เกือบได้ลุ้นจากการซัดโล่งๆ ของ เอกอาทิตย์ สมจิตร แต่ก็ยังแรงเหินข้ามคานออกไป
 
น.15 อานนท์ นานอก แบ็กขวาเพื่อนตำรวจ หลุดขึ้นมาถึงเส้นหลัง ก่อนบรรจงครอสเข้ากลาง บอลลอยมาถึงหัวของ สุรชาติ สารีพิมพ์ ที่กระโดนเทกขึ้นโขกแบบเต็มๆ แต่ไม่เข้าเป้า
 
น.26 โอกาสทองของทหารอากาศ ที่น่าจะได้ประตูตีเสมอเป็นอย่างยิ่ง เมื่อ อนุวัฒน์ อินยิน ได้บอลตามช่องขึ้นมาทางด้านขวา ก่อนจะหักเข้ากลาง บอลเลยมาถึงตัวในอย่าง วัชรพงษ์ จันทร์งาม ที่ยืนอยู่คนเดียว ก่อนตั้งป้อมซัดเต็มเท้า ยังดีที่ จักพงษ์ เรณุมาศ นายด่านเจ้าถิ่น ยังมีปฏิกิริยาดี ป้องปัดเอาไว้ได้ทัน
 
ช่วงท้ายเกมเริ่มที่จะมีฝนตกลงมาบ้าง แต่เกมการแข่งขันของทั้งคู่ ก็ยังคงดำเนินต่อไปได้ ซึ่งทั้งสองทีมก็ยังทำอะไรกันไม่ได้ในช่วงที่เหลือจึง ทำให้ เพื่อนตำรวจ ยังคงนำอยู่ 1-0
 
ครึ่งหลัง “โค้ชเนี้ยว” ส่งเสริม มาเพิ่ม กุนซือทหารอากาศ ก็สั่งให้ลูกทีมเดินหน้าเล่นเกมรุกแบบเต็มตัว น.48 ก็มีโอกาสที่จะเจาะประตูตีเสมอได้ จากการวอลเลย์หน้าปากประตูของ ขวัญ ไวทยาชีวะ แต่สุดท้ายก็ยังไปติดกองหลังเจ้าถิ่นที่ยังเอาตัวขวางไว้ได้ทัน
 
น.55 เจ้าบ้านหันมาเน้นรับ แล้วคอยจังหวะสวนกลับเล่นงาน จนเกือบได้ประตูที่สอง มานิต น้อยเวช ได้บอลจากลูกส้มหล่น เมื่อกองหลังทหารอากาศสกัดไม่ขาดตรงจุดโทษ เจ้าตัวจัดการตวัดยิงเต็มข้อ แต่ดันใส่เต็มแรงมากไป เลยทำให้เสยข้ามคานออกหลังไป
 
น.63 ลูกทัพฟ้า ก็มีเสียวมาเป็นระลอก เมื่อได้ลูกฟรีคิกในระยะ ที่ได้ลุ้น อนุวัฒน์ อินยิน รับอาสาปั่นด้วยขวา แต่ก็ทำได้แค่เสียว น.73 เพื่อนตำรวจ ที่อาศัยจังหวะโต้กลับเล่นงาน มาได้ประตูนำ 2-0 อานนท์ นานอก ได้บอลหลุดเดี่ยวขึ้นไปถึงสุดเส้นหลังด้านขวา ก่อนจะเปิดเข้ากลางมาที่จุดนัดพบ และเป็น สุรชาติ สารีพิมพ์ ที่ตั้งหัวสะบัดลูกนี้เข้าไปเสียบหน้าต่างอย่างสุดสวย
 
ช่วงที่เหลือทั้งสองทีม ไม่สามารถทำอะไรกันเพิ่มได้ จบ 90 นาที เพื่อนตำรวจ เจ้าถิ่นก็เปิดบ้านเอาชนะไปได้ 2-0 พร้อมคว้าสิทธิ์ขึ้นไปเล่นในศึกไทยพรีเมียร์ลีกซีซั่นหน้าอย่างเป็นทางการแล้ว หลังมีคะแนนเหนือทีมอันดับ 4 อย่างขอนแก่น ถึง 18 แต้ม เหลือการแข่งขันอีกแค่ 5 นัดเท่านั้น

หลังเกม 
ชัยยง ขำเปี่ยม เฮดโค้ชเพื่อนตำรวจ กล่าวถึงเกมนี้ว่า “ก็ถือว่าลูกทีมทำผลงานได้ตามเป้าที่วางเอาไว้ แม้จะมีตัวผู้เล่นหลักๆ ต่างพากันบาดเจ็บก่อนเกมนี้จะเริ่ม แต่ตัวสำรองอื่นๆ ก็สามารถที่จะลงสนามไปทดแทนตำแหน่งเพื่อนๆ ได้ดี ขอปรบมือให้กับความสำเร็จของทุกคนที่ช่วยกันทำให้พวกเรามีวันนี้ได้” 
ส่งเสริม มาเพิ่ม กุนซือใหญ่ทหารอากาศ ก็เผยว่า “เกมนี้เราโดนเจาะเร็วอีกแล้วจึงทำให้ต้องมีการเปลี่ยนระบบการเล่นใหม่หมด แต่เกมโดยรวมของเราก็ถือว่า ออกมาได้ดีอย่างที่เห็นในช่วงครึ่งหลัง ที่มีโอกาสไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง งานนี้เทพีแห่งโชคเขาคงไม่อยากจะอยู่ข้างเรามั่งครับ”

 คะแนนความสามารถของทั้งสองทีม 
เพื่อนตำรวจ – จักรพงษ์ เรณุมาศ 7.5, กฤษฎี ประกอบของ 7, อานนท์ นานอก 7.5, กาเมร่า อาเหม็ด 7.5, เอ็นกัตต้า โคเบรัน 7.5, สุรชาติ สารีพิมพ์ 8, ยุทธนา ไชยแก้ว 7.5, มานิต น้อยเวช 7 ( แทน น.80 จักรพันธ์ พรใส- ) , ฮอลเซียน นีสซิม 7, เอกอาทิตย์ สมจิตร7.5 , เดโอดาตัส เอนเน่น7 , 
ทหารอากาศ – วิชาญ ปรีดาบุญ 6, ธนวันต์ ชัยยะศิริสุวรรณ 6, นรินทร์ศักดิ์ โนรินทร์-( แทน น.17 ประสาท คุระนันท์ 6) , อนุวัฒน์ อินยิน 7, วัชรพงษ์ จันทร์งาม 6.5, ขวัญ ไวทยาชีวะ 6.5, อานัฐชัย จันทะยา 6.5, รพีพัชร นาคเพ็ชร6( แทน น.71 มานพ คล้ายแก้ว – ) , ศิริวัฒน์ โชติเวชารักษ์ 6, เธียร์รี่ 6 (แทน น.75 พนา กาญจนศักดิ์ – ), สุทธิ ทองเครือมา 6.5

 แมนออฟเดอะแมตช์  สุรชาติ สารีพิมพ์ ศูนย์หน้าร่างยักษ์เพื่อนตำรวจ

ที่มา www.siamsport.co.th ร่วมแบ่งปันความคิดได้ที่ webboard สโมสร http://www.policefc.com/board/index.php รับข้อมูลข่าวสารจาก twitter ได้ที่ http://twitter.com/PoliceUnitedFC

“เพื่อนตำรวจ มาแรง!!!!”

วันที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 19 ฉบับที่ 6868 ข่าวสดรายวัน   “เพื่อนตำรวจ”..มาแรง  “เปาแป๊ก” หลังจากที่ศึกดิวิชั่น 1 ได้แข่งขันมาถึงปลายฤดูกาลแล้ว ทีมที่จะได้ขึ้นไปเล่นไทยพรีเมียร์ลีกก็ชัดเจนขึ้นทุกขณะ และคงไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่าที่สมาชิกใหม่ของไทยพรีเมียร์ลีก คงหนีไม่พ้น สโมสรเพื่อนตำรวจ จ่าฝูงดิวิชั่น 1 ในขณะนี้ ซึ่งเป็นสโมสรเดียวที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เป็นสโมสรที่ยิงประตูได้มากที่สุดของทั้งสาม ดิวิชั่น และนี่คือเครื่องการันตีถึงความแข็งแกร่งได้เป็นอย่างดี แสดงถึงศักยภาพของผู้เล่นในตำแหน่งหัวหอก แต่เมื่อเหลือบมองชื่อนักล่าประตูแล้ว จึงหายสงสัยเมื่อชื่อของ “เจ้ากั๊ก”มานิตย์ น้อยเวช นักเตะดีกรีทีมชาติยืนเป็นเจ้าของตำแหน่งอยู่ จากการเล่น 23 นัด “เจ้ากั๊ก” หวดไป 18 ประตู มานิตย์ น้อยเวช ดีกรีทีมชาติชุดซีเกมส์ 2 สมัย และเอเชี่ยนเกมส์ 1 สมัย เป็นเด็กเมืองขุนแผนสุพรรณบุรี ด้วยประสบการณ์สายลูกหนังที่ผ่านมาอย่างโชกโชนบวกกับการฝึกซ้อมอย่างทุ่มเท “เจ้ากั๊ก” จึงเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งของเพื่อนตำรวจและเป็นขวัญใจของแฟนบอลโดยไม่ยาก “ความรู้สึกของผมตั้งแต่ได้มาอยู่กับสโมสรเพื่อนตำรวจ รู้สึกประทับใจที่ได้รับความช่วยเหลือและสนับสนุนจากผู้ใหญ่และทุกคนเป็นอย่างดี ทั้งเพื่อนร่วมทีมไม่ว่าจะเป็นรุ่นน้องหรือกลุ่มผู้ฝึกสอนรักใคร่สามัคคี ความสัมพันธ์เหมือนอยู่กันแบบครอบครัวทำให้รู้สึกอบอุ่น และรูปแบบการจัดการของสโมสรเป็นแบบมืออาชีพ ทั้งการฝึกซ้อมที่นำเอารูปแบบการเล่นฟุตบอลสมัยใหม่เข้ามาใช้กับทีมซึ่งเข้ากับสไตล์การเล่นของตัวเอง และเพื่อนร่วมทีมมีความสัมพันธ์อันดีทั้งในและนอกสนามจึงทำให้ทุกคนเล่นเข้ากันได้ดี ซึ่งส่งผลต่อผลงานในสนามที่เรายังไม่เคยแพ้ใครและเป็นจ่าฝูงอยู่ในขณะนี้ ส่วนในปีหน้าที่เราจะเลื่อนชั้นไปเล่นไทยพรีเมียร์ลีกผมเชื่อว่าสโมสรเราทำผลงานได้ดีแน่ ด้วยศักยภาพของทีมเพื่อนตำรวจที่มีนั้นดีอยู่แล้ว เพียงแค่เรารักษามาตรฐานไว้” หัวหอกโปลิศกล่าว 25 ประตูคือเป้าหมายที่ “มานิตย์ น้อยเวช” ตั้งเป้าไว้ในฤดูกาลนี้ ส่วนเป้าหมายของสโมสรเพื่อนตำรวจคือการจบฤดูกาลด้วยตำแหน่งแชมป์ดิวิชั่น 1 และได้ขึ้นชั้นไปเล่นไทยพรีเมียร์ลีก ต้องยอมรับว่า ด้วยศักยภาพผู้เล่นที่มีอยู่ในทีมถือว่าเป็นทีมที่เล่นได้คงเส้นคงวามากที่สุดในลีกของเมืองไทย จากศักยภาพที่กล่าวมานั้นถือว่าเป็นทีมสมาชิกใหม่ในไทยพรีเมียร์ลีกที่น่าจับตาอีกทีมหนึ่ง ส่วนชื่อชั้นและความสามารถถือว่าน่าจะต่อกรกับทีมชั้นนำในไทยลีกได้สบาย แถมมีกองหนุนที่แข็งแกร่งอย่าง “บิ๊กย้อย”พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น.ในฐานะประธานสโมสร ทีมเพื่อนตำรวจ จึงน่าจับตามองอย่างยิ่งทั้งในยุคนี้และฤดูกาลหน้า หน้า 13 หนังสือพิมพ์ข่าวสด

ก่อนเริ่มเกม เพื่อนตำรวจ VS ทหารอากาศ

“ดาร์บี้แมตช์เหล่าทัพ
เพื่อนตำรวจบู๊ทหารอากาศ”

 “สุภาพบุรุษโล่ห์เงิน”เพื่อนตำรวจจ่าฝูงฟุตบอลดิวิชั่น 1 เสาร์นี้มีคิวเปิดสนามคลองจั่นลงเล่นเกมที่ 25 ของฤดูกาลรับการมาเยือนของ”ลูกทัพฟ้า”ทหารอากาศทีมอันดับ 6 ของตารางซึ่งแข่ง 24 แมตช์ มี 36 คะแนน โดยผลงานล่าสุดของเจ้าบ้านนั้นเพิ่งโดนทำลายสถิติไม่แพ้ใครในลีกมา 23 นัดด้วยการบุกไปพ่าย”นกเงือกพิฆาต”ปราจีนบุรี 1 – 0 ส่วนทีมเยือนอย่าง”ลูกทัพฟ้า”ผลงานล่าสุดโชว์ฟอร์มหรูเปิดบ้านชนะจันทบุรีไป 3 – 1 ก่อนเริ่มเกมเสาร์นี้ โค้ช ชัยยง ขำเปี่ยม ออกมากล่าวว่า
    “สโมสรทหารอากาศถือว่าเป็นทีมที่เล่นได้ดีและมีจุดแข็งที่ระบบทีมเวิร์ค แต่เกมวันเสาร์นี้ก็ไม่น่ากังวลมากนักเนื่องจากเลกที่แล้วเราบุกไปคว้า 3 แต้มมาได้ด้วยสกอร์ 2 – 3 ซึ่งนักเตะต่างก็รู้สไตล์การเล่นของทหารอากาศอยู่แล้วเป็นอย่างดี ประกอบกับศักยภาพนักเตะทีมเรานั้นเหนือกว่า ทางด้านสภาพความพร้อมของทีมนั้นไม่มีปัญหาอะไร ส่วนเกมวันเสาร์นี้เราก็จะเดินหน้าบุกตามสไตล์เดิมที่เราถนัดซึ่งเชื่อว่าสามารถเก็บสามแต้มได้อย่างแน่นอน”
    ศึกดิวิชั่น 1 เกมที่ 25 วันเสาร์ที่ 19 กันยายนนี้ เพื่อนตำรวจจ่าฝูงเปิดสนามคลองจั่น พบกับ ทหารอากาศ เริ่มเวลา 16:00น.  

ร่วมแสดงความคิดเห็นกันได้ที่ webboard สโมสรเพื่อนตำรวจ http://www.policefc.com/board/ 

หรือรับข่าวสารจาก twitter ได้ที่ http://twitter.com/policeunitedfc 

Police United 

Spirit of gentleman

แบน2เปา3เดือนกิเลน-โปลิศเซ็งเบาไป

คณะกรรมการผู้ตัดสิน สั่งลงโทษ 2 สิงห์เชิ้ตดำ สัญญา ขันธวิธิ เปาฟีฟ่าชายหาด กับ ชัยวัฒน์ นโรตมางกูร ไม่ให้ตัดสิน ทุกรายเป็นเวลา 3 เดือน หลังทำหน้าที่ผิดพลาดใน ไทยพรีเมียร์ลีก และไทยคม เอฟเอ คัพ ขณะที่ทีมผู้เสียหาย สุดเซ็ง บอกลงโทษเบาเกินไป ไม่คุ้มที่เสีย ชี้ทุกทีมลงทุนเป็นเงินหลายล้าน แต่มาเสียหายเพราะผู้ตัดสิน น่าจะมีบทลงโทษที่หนักกว่านี้

ความเคลื่อนไหวของ การแข่งขังฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก ในส่วนของผู้ตัดสิน ล่าสุด คณะกรรมการผู้ตัดสิน สมาคมฟุตบอลฯ ได้ลงโทษผู้ตัดสิน ที่ทำหน้าที่ผิดพลาด 2 รายด้วยกัน จาก 2 เกม คือในศึกไทยพรีเมียร์ลีก และ ไทยคม เอฟเอ คัพ 
น.อ. สมพร พัชรมุกดากรณ์ รองประธานผู้ตัดสิน ในฐาะนะผู้ประเมินการทำหน้าที่จัดแมตซ์ ออกมาเผยว่า “หลังจากทางคณะกรรมการ ได้ดูเทปบันทึกการแข่งขันเกมไทยพรีเมียร์ลีก คู่ระหว่าง พัทยายูไนเต็ด กับ เมืองทองฯ ยูไนเต็ด เมื่อ 13 ก.ย. ที่ผ่านมา จากสนามเทศบาลหนองปรือ พัทยา จ.ชลบุรี แล้ว
โดยลูกยิงของ ธีรเทพ วิโนทัย ที่ยิงเข้าประตูทีมพัทยา ยูไนเต็ด ไปก่อน ที่ทีม เมืองทองฯ จะมาได้ประตูตีเสมอ ภายหลังจาก ดันโก้ เซียก้า ในที่สุดนั้น เป็นลูกยิงที่ไม่ล้ำหน้า แต่จังหวะนั้นผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 2 สัญญา ขันธวิธิ ผู้ตัดสินฟีฟ่าชายหาด ได้ยกธงว่าเป็นลูกล้ำหน้า ถือว่าทำหน้าที่ผิดพลาด
อีกรายคือ ชัยวัฒน์ นโรตมางกูร ผู้ตัดสินระดับชั้น 1 ที่ยกธงให้ลูกยิงตีเสมอ ของนักเตะทีมเพื่อนตำรวจ เป็นลูกล้ำหน้าในเกมไทยคมเอฟเอ คัพที่ ส่งผลให้ เพื่อนตำรวจบุก ไปแพ้การท่าเรือไทย เอฟซี 0-1 เมื่อ 9 ก.ย. ที่ผ่านมา ถือว่าทำหน้าที่ผิดพลาดเช่นกัน คณะกรรมการผู้ตัดสินจึงพิจารณาสั่งลงโทษผู้ตัดสินทั้ง 2 ราย ห้ามลงตัดสินทุกรายการเป็นเวลา 3 เดือนทั้ง 2 คน
ขณะเดียวกันมีรายงานมาจากเจ้าหน้าที่ทีม ทั้ง เพื่อนตำรวจ และเมืองทองฯ ยูไนเต็ด ว่า การพิจารณาโทษของคณะกรรมการผู้ตัดสิน ต่อผู้ตัดสินทั้ง 2 ราย ที่ทำหน้าที่ผิดพลาดเป็นเวลาแค่ 3 เดือนนั้น ถือว่าน้อยเกินไป เพราะหากเริ่มลงโทษตั้งแต่เดือน ก.ย. นี้ เดือน ธ.ค. ทั้ง 2 รายจะพ้นโทษ นั่นหมายถึงฤดูกาลใหม่ ที่จะเริ่มต้นออกสตาร์ท ตั้งแต่เดือน ก.พ. ปี 53 เป็นต้นไปนั้น ทั้ง 2 รายจะได้กลับมาทำหน้าที่อีกครั้ง 
ถามว่าการลงโทษแค่ 3 เดือน กับผลประโยชน์ ที่ทั้งสองทีมเสียไปคือ ตกรอบสำหรับเพื่อนตำรวจ และน่าจะเป็นฝ่ายบุกไปเก็บชัยชนะ ออกมาจากทีมพัทยาฯ ได้ของ เมืองทองฯ ยูไนเต็ด นั้นคุ้มกันหรือไม่ แต่ละทีมลงทุนทำทีมกันเป็นเงินหลายล้าน ในแต่ละฤดูกาล แต่ผู้ตัดสินผิดพลาด โดนลงโทษให้พักตัดสินเพียง 3 เดือน เทียบกันไม่ได้เลย น่าจะมีบทลงโทษที่หนักกว่านี้ ผู้ตัดสินจะได้คิดไว้เสมอว่า ตัวเองจะต้องผิดพลาดให้น้อยที่สุด ในการทำหน้าที่แต่ละเกม โดยเฉพาะกับจังหวะสำคัญๆ

โดยก่อนหน้านี้โค้ชชัยยง ขำเปี่ยมได้ออกมากล่าวว่ากรรมการเป่าเกรงใจเจ้าบ้านจนเกินไปทำให้เพื่อนตำรวจเสียเปรียบ

“โค้ชยง” ชัยยง ขำเปี่ยม กุนซือเพื่อนตำรวจ ทีมจ่าฝูง ด.1 ออกโรงบ่น แบบเอือมระอา กับการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน ที่บางจังหวะเป่าเพราะเกรงใจเจ้าบ้าน วอนช่วยเลิกกับการกระทำแบบนี้ซักที เผยหมดเงินไปเป็นล้าน แต่ต้องมาพังเพราะคนๆ เดียว

ทำทีมกำลังดีๆ สำหรับ ชัยยง ขำเปี่ยม เฮดโค้ช “โปลิศ” เพื่อนตำรวจ แต่กลับมาพลาดท่าชวดชัยถึง 2 นัดติด โดยเกมแรกแพ้ให้กับ การท่าเรือฯ ในฟุตบอลมูลนิธิไทยคม เอฟเอ คัพ ส่วนอีกนัดคือแพ้ให้กับปราจีนฯ ในศึก ด.1 โดยทั้งสองเกมแพ้ในสกอร์เดียวกันคือ 0-1 ทำให้เสียสถิติเรื่องการไร้พ่ายไปอย่างน่าเสียดาย โดยทั้งสองเกม เพื่อนตำรวจ โดนพิษกรรมการเล่นงาน ร้อนถึง ชัยยง ที่ต้องออกมาวอนให้ผู้ตัดสินทุกคน เลิกพฤติกรรมการเป่าเข้าข้างเจ้าบ้านเพียงเพราะเกรงใจ
 

“ไม่ไหวจริงๆ 2  เกมนี้ เราเสียหายเพราะผู้ตัดสินทั้งนั้น ซึ่งจังหวะ 50-50 มักเป่าให้ทีมเจ้าบ้านตลอด ผมว่าควรหมดไปซักทีกับเรื่องแบบนี้ เพราะแต่ละทีมเขาหมดเงินไปเป็นล้านๆ เพื่อให้ทีมพัฒนาเป็นมืออาชีพ แต่กรรมการกลับไม่พัฒนา มันกลายเป็นว่าพังไม่เป็นท่า ขณะเดียวกัน หากผมได้เล่นเป็นเจ้าบ้าน ผมก็ไม่ขอให้กรรมการต้องมาเป่าเข้าข้างทีมผม เพราะผมคิดว่าเราควรมาสู้เรื่องของศาสตร์ฟุตบอลล้วนๆ จะดีกว่า เพราะคำว่า สปิริต คือสิ่งที่สำคัญที่สุดในกีฬา”
ที่มา www.siamsport.co.th

รับข่าวสารบน twitter ได้ที่ http://twitter.com/policeunitedfc 

หรือร่วมแสดงความคิดเห็นได้ที่ webboard http://www.policefc.com/board/ 

เพื่อนตำรวจพ่ายความสุดยอดของปราจีนไป 1 – 0

เทศบาลเมืองปราจีนบุรี 1-0 เพื่อนตำรวจ
ที่สนามกีฬากลาง จ.ปราจีนบุรี “นกเงือกพิฆาต” เทศบาลเมืองปราจีนบุรี ทีมอันดับ 5 เปิดบ้านพบกับจ่าฝูง “สุภาพบุรุษโล่ห์เงิน” เพื่อนตำรวจ โดยเกมนี้เจ้าถิ่นดร็อป ปองเทพ มุลาลี กองกลางตัวจี๊ดไว้ที่ข้างสนาม แต่ยังมี เจษฎา แก้วประสงค์, อิทธิเดช วันนา, วิโรจน์  ศิลาอ่อน เป็นตัวชูโรง ขณะที่ทีมเยือนมาเต็มสูบ วาง มานิตย์ น้อยเวช ล่าตาข่าย คู่กับ จิมมี่ วูฟฟ์ โดยมี เอกอาทิตย์ สมจิตร, สุรพงษ์ ธรรมวงศา, ยุทธนา ไชยแก้ว ทำเกมในแดนกลาง
 
เริ่มเกมมาได้แค่นาทีเดียว เจ้าถิ่นได้ทักทายก่อนเมื่อ อานนท์ นานอก กองหลังกัปตันทีมของเพื่อนตำรวจ จ่ายบอลพลาด ก่อนเป็น เจษฎา แก้วประสงค์ ปีกร่างจิ๋วของ “นกเงือก” สับไกด้วยซ้ายหน้ากรอบเขตโทษ แต่บอลเหินข้ามคานออกไปนิดเดียว
 
จากนั้นเจ้าถิ่นยังคงเป็นฝ่ายครองบอลได้มากกว่า น.10 ก็เกือบขึ้นนำอีกครั้ง เมื่อ เจษฎา แก้วประสงค์ เปิดฟรีคิกจากทางฝั่งซ้ายไปที่เสาแรก และเป็น เอกลักษณ์ ทองกริด ที่โฉบมาโหม่งเช็ดทว่าบอลผ่านเสาสองออกหลังไปแค่คืบ โดย ควาเบน่ากองหน้าผิวหมึกที่ยืนอยู่ตรงนั้นเข้าชาร์จไม่ทัน
 
เกมผ่านไปครึ่งชั่วโมง ทั้งสองทีมดูเนือยๆ ลงไป เนื่องจากสภาพอากาศที่ค่อนข้างร้อนจัด ซึ่งโอกาสดูเป็นของทีมเยือนที่เริ่มชัดเจนกว่า แต่ น.33 เจ้าถิ่นได้ลองซัดไกลประมาณ 40 หลา จากควาเบน่ายังดีที่ สมพงษ์ ยอดอาจ นายทวาร “สุภาพบุรุษโล่ห์เงิน” ไม่หลับรับบอลไว้ได้
 
น.38 เพื่อนตำรวจ เกือบได้ประตูออกนำเช่นกัน เมื่อ สุรพงษ์ ธรรมวงศา ยิงฟรีคิก 25 หลา กลางประตูบอลโค้งข้ามกำแพงมาแล้ว แต่บอลดันไปแฉลบเสานอกออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย ก่อนที่ท้ายเกมทั้งสองทีมจะเน้นความแน่นอนในการครอบครองบอลเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ไม่สามารถทำประตูกันได้ก่อนจบครึ่งแรกเสมอกันแบบไร้สกอร์
 
ครึ่งหลังทีมเยือนถอด จิมมี่ วูฟฟ์ ที่ครึ่งแรกโชว์ฟอร์มไม่ออก แล้วส่ง จักรพันธ์ พรใส ปีกตัวจี๊ดลงสนามมาแทน และเกือบได้เรื่อง เมื่อ น.51 จักรพันธ์หลอกล่อนักเตะปราจีนฯ ถึงสองคน ก่อนเปิดไปให้ ยุทธนา ไชยแก้ว โหม่งเต็มศีรษะแค่ 6 หลา ข้ามคานนิดเดียว
 
แต่แล้วอีก 3 นาทีถัดมา ทีมเยือนที่บุกเพลินๆ ก็โดนเจ้าถิ่นใช้ลูกโต้กลับเล่นงานจนได้ เมื่อ เอกลักษณ์ ทองกริด เติมเกมไปทางด้านซ้ายก่อนเปิดเข้ากลางมาให้ บัวเต็ง ควาเบน่า จับบอลหนึ่งจังหวะก่อนตวัดด้วยเท้าซ้ายบอลค่อยๆ ไหลเสียบเสาสองเข้าประตูไปอย่างสวยงาม ท่ามกลางเสียงเฮของแฟนบอลเจ้าถิ่นให้ปราจีนฯ ออกนำ 1-0
 
หลังเสียประตูเพื่อนตำรวจเปิดเกมรุกใส่เจ้าถิ่นอย่างหนัก หวังเอาประตูคืน แต่จังหวะสุดท้ายยังขาดๆ เกินๆ ไปหมด ขณะที่ ปราจีนฯ ถอยลงไปตั้งรับกันเกือบทั้งทีม
 
ท้ายเกมนักเตะ “สุภาพบุรุษโล่ห์เงิน” ดูจะหมดมุข ในการเข้าทำ แต่ก็มีโอกาสช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เมื่อ สุรพงษ์ ธรรมวงศา เปิดฟรีคิกจากทางฝั่งซ้ายไปที่เสาสอง และเป็น ไลออน ตัวสำรองที่เปลี่ยนลงไป โหม่งเต็มศีรษะ ทว่าบอลไปชนเสาอย่างจัง พลาดโอกาสตีเสมอไปอย่างน่าเสียดาย ก่อนจบเกม ปราจีนฯ เปิดบ้านเฉือนชนะ เพื่อนตำรวจ 1-0 ยัดเยียดความพ่ายแพ้ เป็นเกมแรกในลีกของฤดูกาลให้กับ “สุภาพบุรุษโล่ห์เงิน” ได้สำเร็จ

 หลังเกม 
“โค้ชต๋อย” ประภาร นาคพงษ์ กุนซือเจ้าถิ่น กล่าวว่า “ต้องชมนักเตะทุกคน ที่เล่นกันอย่างมีวินัย แต่ยอมรับว่าเหนื่อย เพราะ เพื่อนตำรวจเป็นทีมที่ดีซึ่งชัยชนะนัดนี้ ทำให้เด็กมีขวัญและกำลังใจดีขึ้นมาก ในการเก็บชัยชนะในนัดต่อๆ ไป” 
ชัยยง ขำเปี่ยม เฮดโค้ช “โปลิศ” กล่าวว่า “ก็โอเคนะ เด็กเขาเล่นเพรสซิ่งดี ทำให้เราเล่นกันยาก แต่วันนี้เรามาเป็นทีมเยือน ทำให้ต้องมาเจอกับผู้ตัดสินที่เป่าแบบเกรงใจเจ้าบ้าน ผมว่าควรหมดไปซักที กับเรื่องแบบนี้”

คะแนนความสามารถทั้งสองทีม 
ปราจีนบุรี : วิโรจน์  เพ็ชรดอน 5.5, ผดุงศักดิ์  นาคพงษ์ 5.5, ธนะศักดิ์  ศรีใส 5.5, ไตรรงค์  แก่นจันทร์ 5.5, เอกลักษณ์  ทองกริด 5.5, อิทธิเดช  วันนา 5.5,เบน็อต 5.5, อัสมิง  แม 5.5, เจษฎา แก้วประสงค์ 5.5 (วุฒิพงษ์ ศรีกสิกิจ -), วิโรจน์  ศิลาอ่อน 6 (ปองเทพ มุลาลี -), บัวเต็ง ควาเบน่า 5.5 (อภิชาต  อุ่นแอบ -) 
เพื่อนตำรวจ : สมพงษ์  ยอดอาจ 5, กฤษฎี ประกอบของ 5.5, ศรัญยู  อินต๊ะราช 5.5 (โกเบแรน ไลออน 5). อานนท์ นานอก 5, แอนนัน 5, ยุทธนา  ไชยแก้ว 5, สุรพงษ์ ธรรมวงศา 5, เอกอาทิตย์ สมจิตร 5.5 (สุรชาติ  สารีพิมพ์ 5), กามาร่า อาเหม็ด 5.5, จิมมี่ วูฟฟ์ 5 (จักรพันธ์  พรใส 5.5), มานิตย์  น้อยเวช 5

ที่มา www.siamsport.co.th รับข่าวงสารของสโมสรเพื่อนตำรวจที่ www.policefc.com และ http://twitter.com/policeunitedfc

เพื่อนตำรวจพ่ายนัดแรกต่อท่าเรือแบบขัดสายตาคนดู

เพื่อนตำรวจบึกเยือนท่าเรือ บอล f.a.cup เมื่อวานนี้(9 กันยายน) ผลเพื่อนตำรวจพ่ายท่าเรือไป 0 – 1 แบบขัดสายตาคนดูทั่วสนาม

ที่สนามกีฬาแพท สเตเดี้ยม เจ้าบ้าน “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือไทย เอฟซี ตัวแทนจากไทยลีก ที่ผ่านรอบสามมาด้วยการบุกชนะ ราชนาวีฯ 2-1 เปิดสนามพบ “สุภาพบุรุษโล่ห์เงิน” เพื่อนตำรวจ ทีมจาก ด.1 ที่ชนะ จุฬาฯ ทีมจากไทยลีก 2-1 ในรอบสาม
 
เกมนี้เจ้าถิ่นส่งผู้เล่นสำรองลงสนามหลายคน แต่ยังมีตัวหลักๆ อย่าง จีรวัฒน์ มัครมย์, อาลีฟ เปาะจิ, มอยย์ซี่ ลงเป็นแกนหลัก โดยทิ้ง พิพัฒน์ ต้นกันยา ดาวยิงตัวเก่งไว้แดนหน้าคนเดียว ขณะที่ทีมเยือนส่ง ยุทธนา ไชยแก้ว อดีตเด็กเก่า ท่าเรือฯ ลงสนาม พร้อมด้วย มานิตย์ น้อยเวช, อานนท์ นานอก, เอกอาทิตย์ สมจิตร, กฤษฎี ประกอบของ เป็น 11 ผู้เล่นตัวจริง ท่ามกลางแฟนบอลที่แห่เข้ามาชมกันอย่างหนาตา โดยไม่หวั่นแม้สภาพอากาศร้อน
 
นัดนี้มีบุคคนสำคัญเข้ามาชมเกมในสนามมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “บิ๊กย้อย” พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ประธานสโมสรเพื่อนตำรวจ, พิเชฐ มั่นคง ประธานสโมสรการท่าเรือไทยฯ, เกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และ พล.ต.ต.พิสันต์ จุลดิลก รองผู้บังคับการตำรวจภาค 8
 
เปิดฉากมาแค่ 3 นาที ทีมเยือนมีโอกาสทักทายก่อน เมื่อ จักรพันธ์ พรใส เปิดบอลจากริมเส้นฝั่งซ้ายไปที่เสาแรกให้ มานิตย์ น้อยเวช ขึ้นโขกเหน่งๆ แต่บอลข้ามคานออกไปนิดเดียว
 
อีก 3 นาทีถัดมา เจ้าถิ่นมีโอกาสขึ้นนำบ้าง จากจังหวะที่ จีรวัฒน์ มัครมย์ เปิดลูกฟรีคิกจากฝั่งซ้ายไปที่เสาแรก ก่อนเป็น มอยย์ซี่ ที่โฉบเข้ามาโหม่งเช็ดนิดเดียว แต่ยังดีที่ สมพงษ์ ยอดอาจ นายทวารเพื่อนตำรวจ ไม่เสียสมาธิ รับเข้าซองสบาย
 
จากนั้น ท่าเรือฯ เริ่มครองบอลบุกได้มากกว่า และ น.12 แฟนบอล “สิงห์เจ้าท่า” ได้ลุ้นอีครั้ง เมื่อได้ฟาวล์ ระยะ 20 หลา ทว่า จีรวัฒน์ มัครมย์ ดาวเตะลูกนิ่งประจำทีมกลับซัดเหินข้ามคานออกไปไกล
 
น.16 ภัทรกร ตั้งอนุรักษ์ นายทวาร ท่าเรือฯ เกือบเสียท่า เมื่อ ศรัญญู อินต๊ะราช แบ็กดาวรุ่ง “โปลิศ” หลอกยิงฟรีคิกทางกราบขวา ยังดีที่ ภัทรกร ไวพอกระโดดรับไว้ติดมือ
 
จากนั้นเจ้าถิ่นยังคงทำเกมบุกใส่ผู้มาเยือนอย่างต่อเนื่อง แต่ น.29 กลับถูก เพื่อนตำรวจ เล่นสวนกลับและเกือบเสียประตู เมื่อ ยุทธยา ไชยแก้ว เปิดบอลจากมุมธงฝั่งขวาไปบริเวณจุดโทษให้ เอกอาทิตย์ สมจิตร ยิงเต็มข้อ แต่บอลไปแฉลบ อาลีฟ เปาะจิ ออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
 
ก่อนที่ น.32 “สุภาพบุรุษโล่ห์เงิน” จะพลาดโอกาสขึ้นนำถึง 2 ครั้งติด เมื่อ ยุทธนา เปิดบอลไปกลางประตู บอลไปโดนมือของ พงศ์พิพัฒน์ คำนวณ กองหลัง ท่าเรือฯ แต่บอลตกไปถึง มานิตย์ น้อยเวช ที่ได้ส้นหล่น 3 หลา ทว่ากลับซัดติดบล็อก มาริโอ ออกหลังไปอย่างเหลือเชื่อ และจากลูกเตะมุมทางฝั่งขวา จักรพันธ์ พรใส เปิดมาให้ กาม่า อาเหม็ด โหม่งเฉี่ยวเสาแรกออกหลังแค่คืบ
 
น.38 แฟนบอล “เจ้าท่า” เกือบได้เฮ เมื่อ จีรวัฒน์ มัครมย์ มีโอกาสยิงฟรีคิกประมาณ 30 หลา กลางประตู บอลกำลังจะฮุกเสียบใต้คานอยู่แล้ว แต่ สงพงษ์ ยอดอาจ นายทวาร เพื่อนตำรวจ โชว์ซูเปอร์เซฟ ลอยตัวปัดออกหลังไปได้
 
ท้ายเกมทั้งสองทีมไม่ได้เพลาเกมรุกแต่อย่างใด โดยหาจังหวะเปิดเกมเข้าใส่กันตลอด แต่จังหวะสุดท้ายยังขาดๆ เกินๆ ด้วยกันทั้งคู่ ก่อนหมดครึ่งแรกเสมอกันอย่างสนุก 0-0
 
ครึ่งหลังเริ่มมาได้ไม่ถึงนาที กองเชียร์ ท่าเรือฯ เกือบได้เฮกันลั่น เมื่อ พิพัฒน์ ต้นกันยา เปิดบอลจากฝั่งซ้ายไปที่เสาสองให้ โอฬาร ลิ้มสัมพันธ์สันติ พุ่งโหม่งวืดนิดเดียว
 
จากนั้นเกมของเจ้าถิ่นดูเนือยลงไป เปิดโอกาสให้ เพื่อนตำรวจ ได้เปิดเกมรุกใส่อย่างหนัก และ น.58 เอกอาทิตย์ สมจิตร ปีกหน้าตี๋ “สุภาพบุรุษโล่ห์เงิน” โชว์ความสามารถเฉพาะตัวลากบอลหลบผู้เล่น ท่าเรือฯ ถึงสองคน ก่อนจะโดนทำฟาวล์บนเส้นกรอบเขตโทษ และเป็น กฤษฎี ประกอบของ ที่รับอาสาปั่นลูกนี้ แต่บอลไปเข้าซอง ภัทรกร รับสบาย
 
เกมดำเนินผ่านมาครบ 1 ชั่วโมง เกมของ “สิงห์เจ้าท่า” ยังไม่ดีขึ้น โดยเกมรุกถึงกับช็อตไปดื้อๆ ก่อนที่ น.63 จักรพันธ์ พรใส ปีกร่างจิ๋วของทีมเยือนเปิดบอลจากทางซ้ายไปที่เสาสองให้ เอกอาทิตย์ กระโดดวอลเลย์เต็มข้อข้ามคานนิดเดียว
 
จากนั้น เพื่อนตำรวจ เป็นฝ่ายครองบอลบุกอย่างฝ่ายเดียว แต่บุกอยู่เพลินๆ ก็มาโดนทีเด็ดของ ท่าเรือฯ จนได้ เมื่อ เอ็ดวัลโด้ ศูนย์หน้าตัวสำรองที่เปลี่ยนลงไป โหม่งเช็ดให้ พิพัฒน์ ต้นกันยา หลุดเดี่ยวเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้าย ก่อนดีดด้วยขวาสวนตัว สมพงษ์ ยอดอาจ นายทวาร “สุภาพบุรุษโล่ห์เงิน” ที่ออกมาปิดมุมเข้าประตูไปอย่างสวยงาม ท่ามกลางเสียงเฮลั่นของแฟนบอล ท่าเรือฯ
 
หลังเสียประตู เพื่อนตำรวจ เหมือนอยู่ไม่ได้ และเป็นฝ่ายโหมบุกใส่เจ้าถิ่นอย่างหนัก แต่แล้ว น.78 กลับโดน ท่าเรือฯ สวนกลับเร็ว เมื่อ เอ็ดวัลโด้ จ่ายให้ พิพัฒน์ ต้นกันยา หลุดเดี่ยวจากกลางสนาม ก่อนที่ สมพงษ์ ยอดอาจ นายทวารเพื่อนตำรวจ วิ่งออกมาสไลด์บอล แต่ถูก พิพัฒน์ จิ้มถึงก่อน กลายเป็นว่าบอลไปถูกมือของ สมพงษ์ ทำให้ผู้ตัดสินควักใบแดงไล่ สมพงษ์ ออกจากสนามไป ส่งผลให้ทีมเยือนเหลือผู้เล่นเพียงแค่ 10 คน และจากลูกฟรีคิก 30 หลา จีรวัฒน์ มัครมย์ ซัดเต็มข้อ แต่ จักรพงศ์ เรนุมาศ นายทวารตัวสำรองที่ถูกเปลี่ยนลงไปแทน ศรัญญู อินต๊ะราช พุ่งคว้าไว้ได้หวุดหวิด
 
ท้ายเกม ท่าเรือฯ หันลงไปตั้งรับเต็มสูบ และก่อนหมดเวลา 2 นาที จักรพันธ์ พรใส ปีก ตร. กระชากบอลถึงเส้นหลังฝั่งซ้าย ก่อนผ่านไปที่เสาแรกให้ จิมมี่ วูฟฟ์ ดาวยิงตัวสำรองเข้าชาร์จจ่อๆ ตุงตาข่าย แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินกลับยกธงเป็นลูกล้ำหน้า ทำให้ ชัยยง ขำเปี่ยม ถึงกับโวยลั่น แต่โชว์สปิริตด้วยการเล่นต่อ แม้เจ้าตัวจะยืนยันว่าไม่ล้ำหน้าก็ตาม
 
ก่อนที่ น.89 ท่าเรือฯ ต้องเหลือผู้เล่นเพียงแค่ 10 คนเท่ากัน เมื่อ ทรงศักดิ์ ชัยสมัคร กองหลังตัวสำรองไปทำฟาวล์ผู้เล่นทีมเยือนอย่างน่าเกลียด ผู้ตัดสินจึงควักใบแดงไล่ออกจากสนามไป แต่ก็ไม่มีผล เพราะท้ายเกม ท่าเรือฯ สามารถยันเกมบุกของ เพื่อนตำรวจ ได้ ทำให้จบเกม ท่าเรือฯ ชนะ เพื่อนตำรวจ 1-0 ผ่านเข้าสู่รอบ 5 ต่อไป
 
 
วาทะโค้ช 
สะสม พบประเสริฐ กุนซือ การท่าเรือไทย “เกมนี้เราไม่ได้ดีกว่าคู่ต่อสู้เลย  แต่สุดท้ายเราเข้ารอบก็คือว่าโอเคแล้ว  ซึ่งต้องขอชมเชย เพื่อนตำรวจ ว่าเป็นทีมที่ดีทีมนึง  และเราหวังว่ารอบต่อไปคงได้เจอเกมที่เบาบ้าง” 
ชัยยง ขำเปี่ยม กุนซือ เพื่อนตำรวจ “ก็โอเค เด็กเราทุ่มเทกันดี แต่จังหวะเสียประตูเด็กเราเสียสมาธิไปนิดเดียว ซึ่งต้องชมสปิริตลูกทีมทุกคนที่ช่วยกันเล่น”

ที่มา www.siamsport.co.th

รับข่าวสารบน twitter ได้ที่  http://twitter.com/policeunitedfc 

หรือ webboard สโมสร http://www.policefc.com/board/index.php

สโมสรเพื่อนตำรวจกับบางฉากในซิทคอม นัดกับนัด

วันอาทิตย์ที่ผ่านมามี ละครซิทคอม “นัดกับนัด” มีเสื้อสโมสรเพื่อนตำรวจใส่เข้าฉาก

แล้วก็มีพูดโปรโมตสโมสรเพื่อนตำรวจด้วยครับเลยเอามาให้ดูกัน

ขอแรงใจกองเชียร์เพื่อนตำรวจ

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งพลังใจเชียร์เพื่อนตำรวจล้มการท่าเรือfc ใน บอล F.A. cup

ที่สนาม pat stadium วันนี้ห้าโมงเย็น

ประกาศศักดาให้ไทยลีกรู้ว่าเพื่อนตำรวจสุดยอดกว่าใคร  !!!

 

เพื่อนตำรวจ VS สุราษฏร์ธานี

บัตรสมาชิกของสโมสรเพื่อนตำรวจ

เสื้อแข่งของสโมสรเพื่อนตำรวจ ใครที่อยากได้เบอร์ ชื่อ หรือ ว่าอาร์ม ทางเราก็จัดให้ครับ

โก้ นักเตะสุดหล่อของเพื่อนตำรวจ

มาดเหมือนโค้ช บอลพรีเมียร์มากกกก

Game on

 

เพื่อนตำรวจ 4-1 สุราษฎร์ธานี

ที่สนามกีฬาคลองจั่น ทีม “ตราโล่” เพื่อนตำรวจ ว่าที่แชมป์ ฟุตบอลดิวิชั่นหนึ่ง เปิดบ้านรับการมาเยือนของ “เดอะ รูสเตอร์” สุราษฎร์ธานี ทีมอันดับ ซึ่งการแข่งขันในวันนี้ มี พล.ต.ท. วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลซึ่งดำรงค์ตำแหน่งประธานสโมสรทีมเพื่อนตำรวจ เข้ามาชมการแข่งขันในเกมนี้ด้วย

สำหรับทีมสโมสรเพื่อนตำรวจ ถึงแม้ว่าจะทำแต้มทิ้งห่างทีมอันดับสองถึง 6 แต้ม แต่ในทุกเกมที่เหลือ ยังต้องเน้นเช่นกัน เพื่อรักษาสถิติไม่แพ้ทีมให้กับทีมใด ซึ่งนัดนี้นำทัพโดย อานนท์ นานอก กัปตันทีม, กฤษฏี ประกอบของ, และสองศูนย์หน้าตัวเก่งอย่าง มานิต น้อยเวชและ จิมมี่ วูล์ฟ ลงล่าตาข่าย ส่วนทีมเยือน สุราษฎร์ธานี มี ธีรยุทธ์ สืบศิลป์, ปิยะวัฒน์ ทองแม้น, โมฮาเม็ด ซากี้, นำทัพ

เริ่มครึ่งแรก เพื่อนตำรวจ ทำเกมได้ดีกว่า และมาได้ประตูขึ้นนำไปก่อน น.21 จากจังหวะการหลุดเข้าไปยิงจ่อๆ ของ มานิต น้อยเวช ศูนย์หน้าตัวเก่งของทีม เกมรุกของทีมเจ้าบ้าน ยิ่งเล่นยิ่งได้ใจ น.32 กองเชียร์เจ้าบ้านก็ได้เฮกันลั่นสนามอีกครั้ง เมื่อ มานิต น้อยเวช เบิกสกอร์ที่สองให้กับตัวเอง โดยครั้งนี้เจ้าตัวได้แปร ระยะเผาขนที่เสาสองจ่อๆ ชนิดที่ รูเบน ผู้รักษาประตูของทีมเยือน สุราษฎร์ธานี หมดสิทธิ์เซฟ ทำให้เจ้าบ้านหนีห่างออกไปเป็น 2-0

น.37 ทีมเยือน สุราษฎร์ธานี ได้ลุ้นตีไข่แตกบ้าง จากจังหวะที่ ธีรยุทธ์ สืบศิลป์ ซัดเต็มข้อแต่ลูกนนี้บอลเหินข้ามคานออกหลังประตูไป น.43 เจ้าบ้านทิ้งห่างออกไปอีกเป็น 3-0 คราวนี้เป็น จิมมี่ วูล์ฟ กองหน้าผิวสีของทีม ที่ได้หลุดขึ้นไปทางกราบขวา ก่อนจะสับไกบอลตุงตาข่าย อย่างสวยงาม  หมดครึ่งแรก  เพื่อนตำรวจ นำ สุราษฎร์ธานี 3-0

ครึ่งหลังมาได้ไม่ทันไร น.48 ทีมเจ้าบ้านสโมสรเพื่อนตำรวจ ก็มาได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็วคราวนี้เป้น กามาร่า อาเม็ต ได้จังหวะเก็บตกบริเวณหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนที่เจ้าตัวจะตะบันบอลลูกนี้ บอลพุ่งเข้าไปตุงตาข่าย ให้ทีมเพื่อนตำรวจหนีห่างออกไปไกลอีกเป็น 4-0

ช่วงท้ายเกม ทีมเยือน สุราษฎร์ธานี ก็มาได้ประตูปลอบใจ จากจังหวะการยิงหน้ากรอบเขตโทษของ ชัยวัฒน์ ทองวัตร์ทำให้ ทีมเยือนสุราษฎร์ธานี ตามมาห่างๆ ที่ 4-1 ในช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมพังประตูเพิ่มไมได้ จบเกม เพื่อนตำรวจ เอาชนะ สุราษฎร์ธานี ไปด้วยสกอร์ 4-1

หลังเกม

พ.ต.ต.ชัยยง ขำเปี่ยม เฮดโค้ช ทีมสโมสรเพื่อนตำรวจ “เกมในครึ่งเวลาแรกนั้น ต้องบอกว่าลูกทีมนั้นเล่นกันได้ดี สามารถสร้างสันจังหวะการทำประตูได้เยอะ และเราก็ได้มาถึงสามประตู ส่วนในครึ่งหลังนั้นถึงแม้ว่าเราน่าจะยิงเพิ่มได้อีกอย่างน้อยสองถึงสามลูก แต่เราก็พลาดไปแต่โดยรวมๆ แล้ววันนี้ถือเป็นอีกหนึ่งนัดที่เราสามารถทำผลงานได้ดี”

อดุลย์ รุ่งเรือง กุนซือทีม สุราษฎร์ธานี “ต้องบอกว่าวันนี้ทีมเพื่อนตำรวจนั้นทำผลงานได้ดี มีเกมรุกที่หลากหลายทำให้ทีมของเรานั้น ต้องเจอกับเกมที่ยากอีกเกมหนึ่ง แต่ถึงยังไงก็แล้วแต่ในอีกเจ็ดเหมที่เรานั้นเราจะทำผลงานให้ดีที่สุด”

ที่ม่ www.siamsport.co.th

official website www.policefc.com หรือ ติดตามข้อมูลข่าวสารบน twitter ได้ที่ www.twitter.com/policefc